พ่อเลี้ยงใจโหด!!!  ปาดคอลูกเหวอะ ก่อนชิงปาดคอตัวเองหนีความผิด

พ่อเลี้ยงใจโหด!!! ปาดคอลูกเหวอะ ก่อนชิงปาดคอตัวเองหนีความผิด

เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. วันที่ 27 ต.ค. ร.ต.อ.จำนง เนยขำ ร้อยเวร สภ.ย่อยบางน้ำจืด ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ได้รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตายภายในหอพักเลขที่ 64/23 หมู่ที่ 3 ต.บางน้ำจืด อ.เมืองสมุทรสาคร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับ พ.ต.ท.สถิตย์ คงเนียม รอง ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่วิทยาการกองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร ภายในห้องเลขที่ 113 พบศพผู้เสียชีวิตถูกคลุมด้วยผ้าห่ม นอนจมกองเลือดกับพื้นตรงบริเวณหน้าห้องน้ำ ภายในห้องพบเลือดสาดกระเซ็นเต็มพื้น ส่วนที่หลังตู้เย็นพบมีด กับ กรรไกร ความยาวด้ามละประมาณ 25 เซนติเมตร วางไว้ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุเพราะมีเลือดติดอยู่ จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

จากการชันสูตรพลิกศพเป็นหญิงสาววัยรุ่น ทราบชื่อคือ นางสาวเอ นามสมมติ อายุ 17 ปี กำลังศึกษาอยู่ระดับชั้น ปวช.ปี 3 แผนกการบัญชี ของวิทยาลัยการอาชีพแห่งหนึ่ง สภาพศพถูกอาวุธมีดปาดที่ต้นคอด้านหลังเป็นแผลเหวอะหวะ 2 แผล และยังถูกกรรไกรแทงที่ด้านหลังเป็นแผลลึกอีก 8 แผล นอกจากนี้ยังถูกมีดบาดที่ใบหน้า 2 แผล และถูกแทงที่ลำตัวด้านหน้าอีก 3 แผล ไม่มีร่องรอยของการถูกกระทำชำเราหรือข่มขืนแต่อย่างใดทั้งสิ้น ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อต่อมาคือนายอดิเรก จักร์สาน อายุ 36 ปี เป็นอดีตพ่อเลี้ยงของหญิงสาววัยรุ่นผู้เสียชีวิต ขณะเดียวกันในห้องนอนของผู้ตาย ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับห้องที่เกิดเหตุนั้น ก็พบร่องรอยคล้ายกับการต่อสู้กันด้วย

จากการสอบถามแม่ของผู้ตาย (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) เล่าทั้งน้ำตาและยังอยู่ในอาการตกใจว่า ตนเองกับอดีตสามีใหม่ หรือผู้ก่อเหตุที่เคยเป็นพ่อเลี้ยงของลูกสาวนั้น ได้เลิกรากันมาราวๆ 7 เดือนแล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้เมื่อประมาณเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ตนได้รับลูกสาวจากจังหวัดอุบลราชธานี ขึ้นมาอยู่ด้วยและพยายามทำงานส่งเสียให้ลูกสาวได้เรียนสูงๆ ซึ่งเมื่อตนเอาลูกสาวขึ้นมาอยู่นั้นก็เห็นว่านับวันลูกสาวจะโตขึ้นเรื่อยๆ และผู้ก่อเหตุเคยทำร้ายลูกสาวของตนด้วยการตบหน้า เนื่องจากไม่พอใจที่ลูกสาวของตนไปเจาะสะดือ ทั้งนี้หลังจากที่อดีตสามีใหม่ตบหน้าลูกสาวในครั้งนั้น ตนก็ขอเลิกกับผู้ก่อเหตุและแยกห้องกันอยู่ แต่ยังคงอยู่ในหอพักเดียวกัน ห้องก็อยู่ตรงข้ามกัน โดยในทุกๆ วัน เวลาประมาณตี 4 ครึ่ง ตนจะออกไปทำงานเข้ากะเช้า และก่อนออกก็จะปิดห้องล็อคกุญแจอย่างดีไม่เคยลืม ซึ่งในวันนี้ก็มั่นใจว่าได้ล็อคห้องเป็นที่เรียบร้อยอย่างแน่นอน โดยตนก็ไม่รู้ว่า เกิดอะไรขึ้นระหว่างอดีตสามีใหม่ กับ ลูกสาวของตน และทำไมลูกของตนจึงไปอยู่ในห้องของผู้ก่อเหตุ อีกทั้งยังถูกทำร้ายถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม

ขณะที่นายธรรมนัส จันทร์ถุงทอง อายุ 62 ปี ผู้ดูแลหอพักเล่าว่า ในเวลาประมาณตี 5 กว่า พวกตนและคนที่อยู่ในหอพักชั้นล่าง ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือก็รีบวิ่งมายังห้องที่เกิดเหตุ แต่ปรากฏว่าห้องถูกล็อคไว้ ตนจึงได้ไปเอาชะแลงมางัดแผ่นไม้ของบานประตูไม้ แต่กว่าจะงัดออกเสียงผู้หญิงก็เงียบไปแล้ว และเมื่อมองผ่านช่องแผ่นไม้เข้าไป ก็เห็นผู้ก่อเหตุอยู่ภายในห้อง แต่ที่บริเวณด้านหน้าห้องน้ำมีผ้าห่มคลุมศพไว้ จึงได้รีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ และเมื่อทางตำรวจมาถึงก็พยายามเกลี้ยกล่อมผู้ก่อเหตุอยู่พักใหญ่ จึงยอมออกมามอบตัวและก็ปรากฎว่าผู้ก่อเหตุนั้นได้ใช้มีดปาดคอตัวเองไปแล้ว หวังจะฆ่าตัวตายตาม จึงต้องรีบนำตัวส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องนำตัวแม่ของผู้เสียชีวิต เพื่อนข้างห้องที่เห็นเหตุการณ์และที่ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ตลอดจนผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำเพิ่ม ก่อนที่จะสรุปสาเหตุของการฆาตรกรรมโหดในครั้งนี้ต่อไป ส่วนศพของผู้เสียชีวิตนั้นได้นำส่งสถาบันนิติเวชทำการชันสูตรอีกครั้ง