“เคล็ดวิธีแก้กรรม” ที่มีปัญหาเรื่องความรักและครอบครัว!

“เคล็ดวิธีแก้กรรม” ที่มีปัญหาเรื่องความรักและครอบครัว!

การที่มีปัญหาเกี่ยวกับความรัก สาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งนั้น มาจากการที่ชาติหนึ่งชาติใดเคยสร้างกรรมเอาไว้และอาจจะมีกรรมผูกพันจากการอธิษฐานเอาไว้ จากการสาปแช่งของเจ้ากรรมนายเวร การมีหนี้กรรมที่ต้องชดใช้ ก่อนอื่นนั้นครูบาอาจารย์ท่านแนะนำให้ทำการถอนการอธิษฐานเสียก่อน เหมือนกับเราไปขอแก้ไขในสิ่งที่เราเคยทำเอาไว้ ซึ่งจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จนั้น ต้องอยู่ที่บุญของตนเองด้วย

ดังนั้น จึงต้องมีการสร้างบุญกุศลให้กับตนเองเสียก่อน ให้ตนเองนั้นมีต้นทุนที่ดี ในการทำการอะไรก็ตาม ปัญหาความรัก คู่ครอง ครอบครัว เป็นปัญหา มีสาเหตุทั้งจากเรื่องของกรรมใหม่และกรรมเก่า แต่ส่วนมากจะหนักไปทางกรรมใหม่เป็นเหตุหลัก ด้วยการผิดศีลของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือของทั้งคู่และการมัวเมาในกิเลส อำนาจฝ่ายต่ำ และการไม่ยอมกันและกัน หากเป็นในเรื่องของกรรมเก่า เช่น ในอดีตชาติเคยหลอกให้คนอื่นรักหลงแล้วทิ้งขวาง หรือมีสามีหรือภรรยาหลายคนดูแลไม่ดี เป็นเหตุให้คนไหนคนหนึ่งทุกข์ทรมาน หรือเป็นผู้ที่ชอบยุยงให้ครอบครัวตนเองหรือผู้อื่นต้องมีความแตกแยกกันด้วยการกระทำทั้งกาย วาจาและใจ

คอยยุยงให้สามีเกลียดพ่อแม่ ยุยงให้คู่ครองคนอื่นผิดใจกัน เป็นสาเหตุให้คนต้องทะเลาะจนถึงขั้นลงไม้ลงมือ ใช้วาจาส่อเสียดโดยการกระทำทั้งหมดนั้นมีพื้นฐานทางจิตใจที่เป็นอกุศล หากเป็นผู้ที่มีกรรมไม่มีคู่ครองหรือมีคู่แล้วไม่มีบุตรทั้งที่ในชาติปัจจุบันประพฤติตนอยู่ในศีลข้อ 3 ก็ด้วยเหตุแห่งกรรมที่เจ้ากรรมนายเวรต้องการไม่ให้มีคู่ครองหรือบุตรสืบสกุล เนื่องจากในอดีตชาติ เคยไปผิดลูกเมียผู้อื่นมาก่อนทำให้คู่ครองของเขาเกิดความเจ็บช้ำน้ำใจผูกจิตอาฆาตสาปแช่งคืนไม่ให้มีคู่ครองหรือมีลูกด้วย

หรือไม่เช่นนั้นก็ได้ไปกระทำกรรมอันหนักไว้ เช่นเคยสังหารลูกเมียผู้อื่นโดยเจตนาเมื่อได้รับโทษโดยต้องสังเวยชีวิตคืนในชาติถัดไปแล้ว เศษกรรมอันนั้นที่เหลืออยู่ยังส่งผลมายังชาติปัจจุบันทำให้ต้องร้างคู่ครองหรือไม่มีบุตรอีก ในอันที่จริง เรื่องนี้นั้นเป็นเรื่องที่มาแก้ที่ปลายเหตุแล้ว ทางที่ดีต้องเริ่มจากเหตุของมันก่อน คือ เรื่องการดูเนื้อคู่และเลือกให้ถูกต้องตั้งแต่แรก แต่อย่างที่พูดอยู่เสมอว่า สัตว์โลกนั้นมีกรรมเป็นของตัวเอง ดังนั้นเราอาจจะไม่ได้เลือกคู่ครองคนนี้ แต่ไม่อาจจะปฏิเสธได้ เพราะกรรมเป็นผู้ลิขิตให้เป็นเช่นนี้

หลายคนมีปัญหามากในเรื่องคู่ครอง เริ่มจากภายในทั้งขัดแย้งกันทางความคิด นำมาสู่ผลแห่งการกระทำที่ต่างคนก็ไม่พอใจในการกระทำนั่น ทั้งกินเหล้า เที่ยวเตร่การงานไม่ทำหรือสนใจจะทำ การมักมากในกามารมณ์จนเกินเหตุทำให้เกิดความร้าวฉานในชีวิตคู่ การข่มเหงทำร้ายจิตใจให้บอบช้ำทั้งที่มีเจตนาหรือไม่มีเจตนาก็ตาม ทางที่จะเปลี่ยนเรื่องเหล่านี้จากร้ายให้กลับมาเป็นดี เปลี่ยนจากคู่เวรคู่กรรมมาเป็นคู่แท้ คู่บุญบารมีนั้น ทำได้ คือ ต้องทำกรรมดีเท่านั้นที่จะเปลี่ยนทุกอย่างได้ ขอให้มีศรัทธาในความเชื่อเถิดว่า ทำดีย่อมต้องได้ดี ทำบุญต้องได้บุญ

เพียรทำดีกับเขาหรือเธอในทุกๆ เรื่องทั้งกาย วาจา ใจ ปรารถนาให้เขามีความสุขและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี ความดีเหล่านั้นจะไปละลายพฤติกรรมที่ไม่ดีของเขาให้หมดหรือเบาบางลงในระดับที่เราพอที่จะรับได้ หรือหมดพิษไปเลยก็มีมาแล้ว เปรียบความไม่ดีของเขานั้น เป็นยาพิษหนึ่งช้อนถ้าเรากินเข้าไปโดยไม่ผสมอะไร เราตายทันทีแน่นอนแต่ถ้าเราเอากรรมดี คือ น้ำสะอาดหนึ่งตุ่มมาละลายมัน ผลพิษของมันนั้นเบาบางจนแทบทำอะไรเราไม่ได้เลย อันนี้ประการหนึ่ง

ประการที่สอง หมั่นชักชวนเขาหรือเธอให้ทำบุญกุศล ทำทาน รักษาศีล ภาวนา บางคนต้องอาจจะต้องใช้อุบายบ้าง ก็ไม่น่าจะผิดอะไร เพราะเราทำไปด้วยเจตนาที่ดี ที่รักเขาและอยากเห็นเขากลับมาเป็นคนดีดั่งเดิม บุญกุศลที่ทำร่วมกันก็จะเป็นบุญใหม่ และเราหมั่นอธิษฐานขอพลังบุญอันยิ่งใหญ่ช่วยทำให้เขาเดินกลับมาสู่ความดีงาม แรงอธิษฐานเหล่านั้นจะช่วยได้แน่นอน จะเร็วหรือช้าอยู่ที่บุญกุศลที่เราทำนั้นมีอานิสงส์มากน้อยเพียงใด

อานิสงส์ของบุญนั้น ไม่ใช่เพียงแต่แค่การทำทาน ถวายข้าวพระ ถวายสังฆทานเท่านั้น ยังมีช่องทางในการทำบุญหลายช่องทาง ทั้งการรักษาศีล การภาวนา การอนุโมทนาบุญผู้อื่น การใช้แรงกาย สติปัญญาช่วยเหลือผู้อื่น ที่เราไม่ต้องใช้เงินแม้แต่บาทเดียว บางคู่ ในตอนแรกยังไม่สามารถพาคู่ครองไปสู่เส้นทางบุญที่ว่าได้ อาจจะเป็นเพราะเขาหรือเธอนั้นมีวิบากกรรมมาบังตา บังใจอยู่หรือกำลังส่งผลอยู่ การต้องเริ่มจากการโมทนาอุทิศบุญที่ตัวเราเป็นคนทำส่งไปให้เขา ระบุชื่อเขาหรือเธอทุกครั้ง ให้เป็นบุญใหม่แม้เจ้าตัวเขาจะไม่ได้ทำเองก็ตาม หลังจากการทำบุญทุกครั้ง ก็โมทนาอุทิศบุญส่งไปให้ ไม่นานนักบุญที่เขาไม่เคยมีก็จะมีขึ้นมาได้

และยิ่งได้ไปร่วมทำบุญกุศลด้วยกัน บุญของทั้งสองคนก็จะร่วมกันเป็นกองบุญที่ใหญ่ขึ้นๆ และเป็นจริงที่ว่า บุญกุศลเท่านั้นที่จะมีอำนาจทำให้วิบากกรรมต่างๆ ได้เบาบางลงไป จนแทบอาจจะไม่มีผลเลยก็ได้ในชาตินี้ แต่อย่างไรก็ดีก็คงต้องได้รับเศษเวรเศษกรรมีที่ทำมา เพราะเป็นกฎแห่งกรรมที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงไปได้ เมื่อเราได้ทำกรรมดีร่วมกันแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดอีกเรื่องหนึ่งก็คือ ต้องละเว้นกรรมชั่วด้วย อย่างน้อยการรักษาศีล 5 อย่างเคร่งครัด นั้นจะเป็นกำแพงกั้นไม่ให้ความชั่วและความไม่ดีมาสู่ชีวิตของเราทั้งคู่ได้

และที่สำคัญ ครูบาอาจารย์ท่านสอนไว้ว่า ถ้าเราสามารถทำให้คู่ของเรานั้น กล่าวอโหสิกรรมให้กับเรา และเราให้อโหสิกรรมต่อเขาหรือเธออย่างจริงใจ วิบากกรรมไม่ดีที่เคยทำร่วมกัน ก็จะได้ยกเลิกกันไป ซึ่งจะเป็นผลดีอย่างมากของคนทั้งคู่ เพราะสิ่งที่เราเป็นหนี้แก่กันและกันได้ถูกชดใช้ไปแล้วและ สำหรับคู่ที่เป็นคู่เวรคู่กรรม คู่อาฆาตทะเลาะเบาะแว้งกันรุนแรงอยู่ตลอดเวลา และมีความคิดอยู่ทุกวันว่าจะแยกทางกันได้อย่างไร สิ่งที่แยกคนทั้งคู่ออกจากกันไปได้ ก็คือ ต้องรอให้วิบากกรรมที่ทำร่วมกันนั้นหมดลงเสียก่อน ถึงจะแยกกันไปได้ และแรงอานิสงส์ผลบุญของตัวเราเท่านั้นที่จะช่วยเราได้ ที่จะพอทำให้วิบากกรรมต่างๆ ได้หมดลงหรือคลายลง อีกทั้งอาจมีกรรมมาตัดรอน กรรมมาบีบคั้น ทำให้สิ่งที่เราทนทุกข์นั้นพลิกผันไป ซึ่งก็เป็นเรื่องของกฎแห่งกรรมทั้งสิ้น ขอให้ทำใจและเข้าใจในเรื่องกฎแห่งกรรมอย่างลึกซึ้ง ถ้ามีเรื่องไหนยังไม่เข้าใจลองสอบถามครูบาอาจารย์ทั้งที่เป็นพระสงฆ์หรือคนที่ปฎิบัติธรรมที่ถูกต้อง ก็จะได้คำตอบที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิต

แต่อย่าเป็นอันขาด ขอเตือนไว้เลยว่า ประตูนรกเปิดรออยู่ ถ้าแอบไปสร้างกรรมไม่ดีโดยคิดเอาเองว่า จะสามารถตัดขาด หลีกหนีเรื่องของกฎแห่งกรรมไปได้ รั้งแต่จะทำให้ต้องทนทุกข์ทรมานมากยิ่งขึ้น ทั้งการพยายามทำร้ายตัวเอง การคบชู้ มีกิ๊ก การประพฤติในการเสื่อมทั้งปวงเพื่อการประชดประชันคู่ครอง ให้โกรธหรือเลิกรากันไป มันจะไม่เป็นอย่างที่เราหลงคิดผิดไปอย่างนั้นแน่นอน เพราะผลของมันเลวร้ายกว่าที่คิดมากนัก แต่ถ้ายังรัก ยังมีแรงปรารถนาที่อยากจะครองคู่กันอีก มีจิตใจเมตตา เชื่ออยู่เสมอว่ากรรมดีจะเปลี่ยนแปลงเขาหรือเธอได้ ดวงตาและหัวใจยังคงเห็นในความดีของเขาหรือเธอ ที่มากกว่าความไม่ดี ลองเอาวิธีที่แนะนำข้างบนเหล่านี้ไปใช้ ต้องได้ผลที่ดีกลับขึ้นมาแน่นอน อย่างน้อยก็กับผู้ที่ได้กระทำความดี เป็นเสบียงบุญที่เก็บไว้ ถึงเวลาก็เอาออกมาใช้ได้ทันเวลา