ชาวเน็ตแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับอาวุธปืนที่ใช้ยิง ในเหตุน่าสลดเด็ก ม.4 ปะทะลุงวิศวะ พบเป็นปืนพกเล็ก กระสุน .380 ไม่ใช่ปืนสังหาร ส่วนใหญ่พกไว้ป้องกันตัว

จากกรณีที่ นายปอน อายุ 17 ปี ถูก นายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ อายุ 50 ปี วิศวกร ยิงด้วยอาวุธปืนและเสียชีวิต เพียงเพราะทะเลาะกันเรื่องที่จอดรถ กลายเป็นประเด็นข่าวโด่งดังไปทั่วสังคม ท่ามกลางกระแสวิจารณ์หลายมุมไปต่างๆ นานา

เฟซบุ๊กคุณ Wasu Khanhom ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุครั้งนี้ ที่อาจจะสะท้อนให้เห็นถึงเจตนาต่างๆ ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยระบุว่า อาวุธปืนที่ นายสุเทพ ใช้ก่อเหตุนั้นเป็นอาวุธปืนพกขนาดเล็กสำหรับผู้หญิงไว้ป้องกันตัว ใช้กระสุนขนาด .380 ACP คนละขนาดกับ .38 Special ปืนลูกโม่ของตำรวจ กระสุนมีขนาดแค่ 9 x 17 มม. ขนาดเล็กกว่ากระสุนมาตรฐานปืนพก NATO

สำหรับกระสุน .380 ถือว่ามีอำนาจการหยุดยั้งน้อยและมีระยะยิงหวังผลไม่เกิน 10 เมตรเท่านั้น เป็นกระสุนปืนขนาดเล็กที่ใช้สำหรับปืนพกขนาดกะทัดรัด เพื่อการพกพาได้สะดวกและใช้เพียงเพื่อการป้องกันตัวเท่านั้น คนที่ถูยิงด้วยกระสุน .380 จะไม่ล้มลงหรือโดนแรงช็อกจากวิถีกระแทกของกระสุนมาก และเป็นกระสุนที่ไม่หัวแบบ Hollow Point เพื่อหวังสังหาร

ดังนั้น อาวุธปืนที่ นายสุเทพ ใช้นั้นจึงเป็นอาวุธปืนสำหรับการป้องกันตัวในระยะประชิด ไม่ใช่ปืนสังหารหรือปืนซ้อมยิงในสนาม เมื่อเทียบกับนักเล่นปืนทั่วไปส่วนใหญ่จะชอบพกปืนขนาด 9 มม. เพราะมีหัวกระแสหลายแบบ หากผู้ก่อเหตุรายนี้เป็นคนบ้าปืน หรือนักเลง คงไม่เลือกพกอาวุธปืนเล็กๆ แบบนี้

เพียงแต่ว่าเหตุการณ์ดังกล่าว กระสุนปืนถูกยิงเข้าบริเวณหน้าอก โดยที่ไม่ได้เล็งเป้าด้วยซ้ำ เพราะผู้ก่อเหตุไม่ได้สวมแว่นสายตา ส่วนอีกฝ่ายแตกตื่นวิ่งหนี และยังไม่มีการช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลอย่างทันท่วงที ทำให้เสียชีวิตลงในที่สุด จึงเชื่อเจตนาของผู้ก่อเหตุน่าจะแค่ป้องกันตัว ไม่ได้ตั้งใจเจตนาฆ่าอีกฝ่าย ประกอบอยู่สถานการณ์ที่กดดัน