สาวทอมหลาน ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมเพื่อนสนิท เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว หลังถูกกลุ่มชายฉกรรจ์หลายคนรุมทำร้ายร่างกาย ภายในลานจอดรถห้างสรรพสินค้าแฮปปี้แลนด์

เมื่อเวลา 18.00 น. วานนี้ (9 ก.พ.) ที่ สน.ลาดพร้าว นางสาวนันทิยา ชินวัตร อายุ 35 ปี หลานนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางสาว จิราพร บุบชัยยา อายุ 31 ปี เข้าให้ปากคำเพิ่มเติม กับ ร้อยตำรวจโท ธรรมโชติ พันธุฟัก รองสว.(สอบสวน) สน.ลาดพร้าว พร้อมนำใบรับร้องแพทย์ และหลักฐานซึ่งเป็นคลิปขณะถูกกลุ่มชายฉกรรจ์หลายคนรุมทำร้ายร่างกาย ภายในลานจอดรถห้างสรรพสินค้าแฮปปี้แลนด์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ โดยมีการแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ก่อนหน้านี้แล้วหลังเกิดเหตุ

น.ส.จิราพร กล่าวว่า ตนและ น.ส.นันทิยา เดินทางมาหาพี่ที่ขายของอยู่ในห้างสรรพสินค้าแฮปปี้แลนด์ จนถึงเวลาประมาณ 00.40 น. ได้เดินออกมาขึ้นรถโดยมีน.ส.นันทิยา เป็นคนขับ เมื่อขับมาถึงตู้เก็บค่าบริการลานจอดรถน.ส.สุพัตรา บุญรอด อายุ 25 ปี เป็นพนักงานเก็บเงิน ได้แจ้งค่าบริการจอดรถ 50 บาท

ในขณะที่ตนกำลังนำเงินออกจากกระเป๋าน.ส.นันทิยา ได้นำถุงขยะเป็นไม้เสียบมะยมเชื่อมยื่นฝากให้น.ส.สุพัตรา นำไปทิ้ง น.ส.สุพัตรา ก็รับไปแต่ นายชลอ ทองแก้ว อายุ 27 ปี สามีของ น.ส.สุพัตรา ซึ่งนั่งอยู่ในป้อมเกิดความไม่พอใจหาว่าดูถูกก่อนจะปาถุงขยะกลับเข้ามาในรถจึงเกิดปากเสียงกันขึ้น ตนพยายามห้ามและส่งเงินค่าจอดรถให้น.ส.สุพัตรา เพื่อจะรีบออกไปจากตรงนั้น

แต่ นายชลอ ยังด่าทอพวกตนเป็นภาษาใต้ฟังไม่รู้เรื่องจากนั้นก็เดินมาเปิดประตูรถทางด้านทางฝั่งคนขับเรียกให้ลงมาคุยกัน น.ส.นันทิยา จึงลงไปคุยและมีปากเสียงกันต่อกระทั่งนายชลอ สะบัดมือไปโดนปากของ น.ส.นันทิยา 1 ครั้ง ตนจึงเข้าไปห้าม และขอให้ไปเรียกหัวหน้ามาคุยกัน

จากนั้นตนและ น.ส.นันทิยา จึงเดินไปขึ้นรถ และบอกให้เปิดไม้กันเพื่อจะขับกลับเข้ามาใหม่เนื่องจากมีรถจอดต่อรอออกจากลานจอดหลายคัน เมื่อขับรถกลับเข้ามาตน และน.ส.นันทิยา ได้ออกมายืนรอที่ข้างรถกลับมีกลุ่มชายฉกรรจ์สวมชุดซาฟารีสีดำคาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนของนายชลอ และน่าจะเป็นการ์ดของผับประมาณ 3-4 คนเดินเข้ามา จึงได้พูดคุยแต่ก็เกิดปากเสียกันอีกครั้ง

ฝั่งชายฉกรรจ์จึงได้ลงมือทำร้าย น.ส.นันทิยา ตนพยายามห้ามแต่กับถูกน.ส.สุพัตรา กระชากผมล้มไปนั่งกองกับพื้นก่อนจะถูกเตะและกระทืบที่บริเวณหัว จนตนไม่มีแรงสู้ได้แต่นอนเก็บคองอเข่า กระทั่งทั้งหมดแยกย้ายกันกลับไป ตนจึงเดินทางเข้าแจ้งความที่สน.ลาดพร้าว

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้เรียกตัวคู่กรณีมาสอบปากคำแล้วตั้งแต่เมื่อคืนเกิดเหตุ แต่ยังเรียกเข้ามาไม่ครบ ส่วนทางด้านผู้ได้รับบาดเจ็บได้ให้ไปตรวจร่างกายที่รพ. แล้วเพื่อให้แพทย์ระบุอาการมาประกอบสำนวนว่าสามารถแจ้งข้อหาใดได้บ้าง

ขอบพระคุณ Workpoint News ข่าวเวิร์คพอยท์